ไอเอสโอปรับปรุงมาตรฐานรหัสยืนยันตัวตนทางกฏหมาย

ISO-17442--Has-Just-Been-Updated_Oct-20

เมื่อพูดถึงการทำธุรกรรมทางการเงิน  ในเบื้องต้นจำเป็นจะต้องรู้ว่าใครเป็นใครและใครคือเจ้าของธุรกิจที่แท้จริงเพื่อให้มั่นใจในเรื่องของความโปร่งใสและความมั่นคงปลอดภัย ดังนั้น ธุรกิจจึงต้องใช้สิ่งที่เรียกว่า “รหัสยืนยันตัวตนทางกฎหมาย (Legal Entity identifier: LEI)” เพื่อการทำธุรกรรมอย่างปลอดภัย  ซึ่งปัจจุบัน ไอเอสโอได้ปรับปรุงมาตรฐานบริการทางการเงินด้านรหัสยืนยันตัวตนทางกฎหมายแล้ว

โลกของเราได้ผ่านความท้าทายระดับโลกสำหรับวิกฤตทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบธุรกรรมในระบบการเงินเมื่อปี 2551 (ค.ศ.2008) มาแล้ว การมีวิธีระบุรหัสยืนยันตัวตนทางกฎหมายได้ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการขออนุญาตผู้ควบคุมกฎในระดับสากลเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการยืนยันตัวตนจากหลายแหล่งด้วยกัน

เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว กลุ่มประเทศ G20 ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2542 (ค.ศ.1999) เพื่อเป็นกรอบการหารืออย่างไม่เป็นทางการเพื่อสนองตอบต่อวิกฤตทางการเงิน ประกอบด้วยผู้แทนสหภาพยุโรปและอีก 19 ประเทศ จึงได้สร้างรหัสยืนยันตัวตนทางกฎหมายขึ้นมาเพื่อเชื่อมโยงไปยังข้อมูลที่สำคัญเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินรวมไปถึงโครงสร้างที่แสดงความเป็นเจ้าของด้วย

วิธีในการสร้างรหัสเช่นนี้มีการระบุไว้ในมาตรฐาน ISO 17442 ซึ่งเพิ่งมีการปรับปรุงไปเมื่อไม่นานมานี้  แต่เดิมเป็นมาตรฐาน ISO 17442 เพียงฉบับเดียว ปัจจุบัน ได้ปรับปรุงเป็นมาตรฐาน 2 ฉบับได้แก่

  1. มาตรฐานISO 17442-1, Financial services – Legal entity identifier (LEI) – Part 1: Assignment ระบุองค์ประกอบขั้นต่ำของการจัดทำรหัสยืนยันตัวตนทางกฎหมายที่มีความชัดเจนเป็นเอกลักษณ์ และมีความสามารถในการระบุตัวตนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางการเงินซึ่งรวมถึงธนาคาร บริษัททางการเงินองค์กรอื่นใดที่มีประเด็นเกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัย และใครก็ตามที่มีรายชื่ออยู่ในตลาดหลักทรัพย์ กองทุนบำเหน็จบำนาญ และอื่นๆ
  2. มาตรฐาน ISO 17442-2, Financial services – Legal entity identifier (LEI) – Part 2: Application in digital certificates ช่วยเสริมมาตรฐาน ISO 17442-1 ด้วยการระบุวิธีการที่จะฝังเอารหัสยืนยันตัวตนทางกฎหมายเข้าไปในการรับรองผ่านระบบดิจิตอล

เดวิด บรอดเวย์ ผู้ประสานงานกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่พัฒนามาตรฐานดังกล่าวระบุว่าพวกเขาได้ทำการทบทวนมาตรฐานนี้เพื่อสนับสนุนให้เกิดความชัดเจนและสะท้อนถึงนโยบายที่เปลี่ยนแปลงไปและบทเรียนที่ได้รับนับตั้งแต่มีการตีพิมพ์เผยแพร่ในครั้งแรก

นับตั้งแต่ ISO 17442 ได้มีการนำไปประยุกต์ใช้เป็นครั้งแรก ก็มีการคำนึงถึงนโยบายของชุมชนผู้ควบคุมกฎด้วย ดังนั้น จึงมีความสำคัญที่มาตรฐานจะต้องสะท้อนถึงสิ่งนี้ด้วย

การปรับปรุงมาตรฐานนั้นรวมถึงลักษณะเฉพาะที่เพิ่มเติมเข้ามาและการทบทวนที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติในเรื่องสาขานิติบุคคลในระดับสากลรวมทั้งบันทึกข้อมูลรหัสยืนยันตัวตนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องบริษัทแม่และสถานะของนิติบุคคลด้วย

มาตรฐาน ISO 17442-1 และ ISO 17442-2 ได้รับการพัฒนาโดยกลุ่มงาน WG 4 ซึ่งปฏิบัติงานภายใต้คณะกรรมการวิชาการ ISO/TC 68, Financial services คณะอนุกรรมการ SC 8, Reference data for financial services ซึ่งมีเลขานุการคือ SNV ซึ่งเป็นสถาบันาตรฐานแห่งชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ผู้สนใจมาตรฐานดังกล่าวสามารถศึกษาได้จากห้องสมุดสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) หรือสั่งซื้อได้จากเว็บไซต์ของไอเอสโอ ISO Store

ที่มา:

  1. https://www.iso.org/news/ref2548.html
  2. https://www.iso.org/standard/78829.html