สิ้นสุดการรอคอยกับโอกาสการเข้าสู่ช่องทางการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ! กับแต้มต่อสินค้า Made in Thailand
การรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย [Made in Thailand : MiT]
ตามประกาศกฎกระทรวง กำหนดพัสดุและวิธีกำรจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2563 (ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา 22 ธันวาคม 2563) ให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่ผลิตในประเทศ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของพัสดุที่จะใช้ ที่ได้ขึ้นบัญชีรายชื่อไว้กับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
สินค้า Made in Thailand คืออะไร
- สินค้าที่ทำการผลิตในประเทศไทย จากโรงงานหรือธุรกิจที่มีการจดทะเบียน มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ที่ถูกต้องชัดเจนในประเทศไทย
- มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยหลักเกณฑ์การคำนวณมูลค่าสินค้าของ MiT คิดตามหลัก ASEAN CONTENT
- สินค้า Made in Thailand หรืออักษรย่อ MiT จะได้รับเอกสารรับรองหรือเครื่องหมายที่ ส.อ.ท. ออกให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อประโยชน์ในการนำไปใช้แสดงคุณสมบัติสินค้า Made in Thailand หรือ MiT กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
คุณสมบัติผู้ยื่นขอการรับรอง Made in Thailand
- เป็นผู้ประกอบการ ที่มีแหล่งผลิตในประเทศไทย
- ครอบคลุมนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา(ทะเบียนพาณิชย์ หรือได้รับการจดทะเบียนตามกำหนดของหน่วยงานราชการอื่น)
ประโยชน์ของการได้รับรอง Made in Thailand
ผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรอง Made in Thailand จะได้ประโยชน์ในหลายด้านด้วยกัน อาทิ
- สิทธิประโยชน์จากการให้แต้มต่อของภาครัฐ ที่กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่ผลิตในประเทศ ไม่น้อยกว่าร้อยละหกสิบของพัสดุที่จะใช้
- สินค้าได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้นจากคู่ค้า / ผู้บริโภค
- สร้างโอกาสในการขยายการค้าไปยังต่างประเทศที่นิยมสินค้าไทยได้มากขึ้น
- สิทธิประโยชน์อื่นๆ ในอนาคต
การออกใบรับรอง Made in Thailand
- 1 ใบรับรองต่อ 1 SKU-ผลิตภัณฑ์
- ใบรับรองมีอายุ 1 ปี นับจากวันที่อนุมัติงาน
- อัตราค่าบริการ 100 บาทต่อใบ
เกณฑ์การพิจารณา MiT
- สูตร 1,2 พิจารณาจากมูลค่าต้นทุนสินค้า MiT จะต้องได้เท่ากับหรือมากกว่า 40%
- สูตร 3 พิจารณาจาก HS Code
- สูตร 4 พิจารณาตามเงื่อนไขการผลิต Substantial Transformation (ST)
รายการเอกสารแนบ
1. เอกสารการลงทะเบียน
1.1) กรณีเป็นบุคคลธรรมดา
1.1.1) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขออนุญาต พร้อมลงนามรับรองเอกสาร
1.1.2) ทะเบียนพาณิชย์ หรือได้รับการจดทะเบียนตามกำหนดของหน่วยงานราชการอื่น
1.1.3) หลักฐานการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
1.1.4) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่น พร้อมลงนามรับรองเอกสาร
1.1.5) *กรณีผู้ยื่นไม่ใช่ผู้มีอำนาจในหนังสือรับรองทะเบียนนิติบุคคล ให้แนบหนังสือมอบอำนาจตามแบบฟอร์มของบริษัท (พร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบ) และอากรแสตมป์ 30 บาท
1.2) กรณีเป็นนิติบุคคล
1.2.1) สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมวัตถุประสงค์อายุไม่เกิน 3 เดือน และลงนามรับรองเอกสาร
1.2.2) สำเนาใบอนุญาตประกอบกิจการ เช่น รง.4, รง.2, กนอ., ฯลฯ
1.2.3) สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ. 20)
1.2.4) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่น พร้อมลงนามรับรองเอกสาร
1.2.5) *กรณีผู้ยื่นไม่ใช่ผู้มีอำนาจในหนังสือรับรองทะเบียนนิติบุคคล ให้แนบหนังสือมอบอำนาจตามแบบฟอร์มของบริษัท (พร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบ) และอากรแสตมป์ 30 บาท
2. เอกสารการขอรับรองรายการสินค้า MiT
2.1) รูปถ่ายสินค้า 4 มุมมอง(หน้า หลัง ซ้าย ขวา) และรูปถ่ายฉลากสินค้า (แนบรูปทุกรายการสินค้าที่ยื่นขอ MiT)
2.2) ขั้นตอน / ผังกระบวนการผลิตสินค้า
2.3) ใบรับรองมาตรฐานสินค้า
2.4) สำเนาใบกำกับสินค้า (Invoice) จาก Supplier
2.5) สำเนาใบขนสินค้าขาเข้า (Import Declaration)
ผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
http://www.smi.or.th/isc…/download/2021/MiT_Intro.pdf
สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ : www.fti.or.th/MiT
และเปิดให้ยื่นขอใบรับรอง ตั้งแต่ 20 มกราคม 2564 เป็นต้นไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
สายงานมาตรฐานอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
02-345-1100 หรือ 02-345-1010