มาตรฐานระบบการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก หรือ Facility Management System (FMS) มีความสำคัญและบทบาทเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากได้เข้ามาแทนที่การดูแลอาคารสถานที่ในรูปแบบเดิม (การดูแลรักษาอาคารและการบริหารจัดการอาคาร) โดยเกิดจากกระแสการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี รวมทั้งการแข่งขันทางธุรกิจ ทำให้หลายองค์กรต้องปรับกลยุทธ์การใช้อาคารให้เกิดประโยชน์สูงสุดซึ่งต้องมีระบบการจัดการที่ดีในการจัดการอาคารรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีการให้บริการ
สิ่งอำนวยความสะดวกในที่นี้หมายถึงทรัพยากรกายภาพ เช่น อาคาร ระบบประกอบอาคาร สถานที่ และบริเวณภูมิทัศน์ อุปกรณ์ และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ รวมถึงสาธารณูปโภคต่างๆ และทรัพยากรสนับสนุน เช่น การดูแลรักษาอาคาร บริการ อาคาร บริการสํานักงาน และบริการทั่วไป
FMS เป็นการนำเอาความรู้ในสาขาวิชาต่างๆ บูรณาการเข้าด้วยกันเพื่อให้ส่งผลต่อประสิทธิภาพ และการเพิ่มผลิตผลทางเศรษฐกิจของสังคม ชุมชน และองค์กร ตลอดจนรูปแบบที่ตัวบุคคลมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นซึ่งเมื่อมีการส่งมอบบริการที่ดีแล้วจะส่งผลต่อสุขภาพ ความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ดังจะเห็นได้ว่า FMS เกี่ยวข้องกับการจัดการ “3 P” ได้แก่ คน (People) กระบวนการ (Process) และสถานที่ (Place) อันเป็นหลักการสำคัญของ FMS นั่นเอง
การส่งมอบบริการนั้นสามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมได้ทุกประเภท ตั้งแต่สำนักงาน สถานศึกษา สถานพยาบาล โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงศูนย์กีฬาและสันทนาการ และห้องปฏิบัติการวิจัย เป็นต้น ซึ่งหมายความว่าธุรกิจและองค์กรเหล่านี้สามารถนำมาตรฐาน FMS ไปใช้งานเพื่อประโยชน์ขององค์กรได้ รวมทั้งองค์กรผู้ให้บริการด้านการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก และองค์กรที่ทำหน้าที่บริหารจัดการสินทรัพย์ในภาคธุรกิจด้วย
มาตรฐานระบบการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก มีประโยชน์ดังต่อไปนี้
- ทำให้มีการจัดการข้อมูลอาคารอย่างเป็นระบบ
- มีการสื่อสารที่ชัดเจนและโปร่งใสระหว่างผู้เกี่ยวข้อง
- ทำให้ลดความขัดแย้งระหว่างผู้ให้บริการภายในและภายนอก
- ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับงานบริการและการจัดการอาคาร
- ปรับปรุงผลผลิตด้านแรงงาน ความปลอดภัย สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
- ทำให้งานบริการมีความสม่ำเสมอและมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง