องค์กรก้าวไกล แข่งขันได้ด้วย ISO 45001 ตอนที่ 1

ISO-45001--for-Businesses-to-be--Competitive1

สุขภาพและความปลอดภัยนับเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นลำดับแรกๆ สำหรับคนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการผลิต วารสารไอเอสโอโฟกัสได้พูดคุย
กับไมค์ เดนิสัน จากองค์กรผู้ผลิตที่มีชื่อว่า EEF (The Manufacturers’ Organization) ซึ่งเป็นสมาคมการค้าที่เป็นตัวแทนของบริษัท 20,000 บริษัท
ในภาคส่วนการผลิตและวิศวกรรมศาสตร์ ไมค์ เดนิสันได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนามาตรฐาน ISO 45001 ซึ่งมาตรฐานอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
จะมีผลกระทบต่อภาคการผลิตและจะช่วยทำให้มั่นใจในเรื่องของการทำงานที่มีอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่ดี และเขาได้ให้สัมภาษณ์กับวารสารไอเอสโอโฟกัส ดังต่อไปนี้

คำถาม : สิ่งที่เป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและสุขภาพโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับภาคการผลิตคืออะไร และมาตรฐาน ISO 45001 ช่วยในเรื่องดังกล่าวได้อย่างไร

ไมค์ เดนิสัน : การผลิตมีความเสี่ยงหลายด้าน ในขณะที่มีความเสี่ยงแบบเดิมๆ อย่างขับเคลื่อนของยานพาหนะ การจัดการโดยใช้คน และอื่นๆ แล้วก็ยังมีหลายพื้นที่ที่มีความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างเช่นเครื่องจักรและประเด็นด้านการยศาสตร์ (ergonomic) อื่นๆ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายที่ทำซ้ำๆ และส่งผลต่อสุขภาพอนามัยของผู้ปฏิบัติงาน

ในการระบุอันตรายด้านนี้ ISO 45001 ขอให้ธุรกิจมองไปที่อันตรายที่เกิดขึ้นจากการออกแบบบริเวณที่ทำงาน กระบวนการ การติดตั้ง เครื่องจักร/อุปกรณ์ ขั้นตอนการปฏิบัติงาน และองค์กรที่ทำงาน รวมทั้งการรับเอาความต้องการและความสามารถของผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องไปใช้งาน ซึ่งเรื่องเหล่านี้เมื่อรวม
เข้ากับข้อกำหนดในการประเมินวิธีการจัดการ ปัจจัยด้านสังคม (รวมทั้งจำนวนงาน ชั่วโมงการทำงาน อันตรายที่จะเกิดขึ้น การล่วงละเมิด และการกลั่นแกล้ง) ความเป็นผู้นำ รวมทั้งวัฒนธรรมในองค์กรแล้วธุรกิจก็ควรจะให้เข้าไปดูแลจัดการให้ครอบคลุมด้วย

กิจกรรมการบำรุงรักษาในด้านการผลิตบ่อยครั้งทำให้เกิดปัญหา เนื่องจากในหลายธุรกิจ การผลิตเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งสามารถส่งผลให้เกิดแรงกดดันในการเร่งทำงานโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพและความปลอดภัยและทำให้เกิดความเสี่ยงในการผลิตและบ่อยครั้งก็เกี่ยวข้องกับการใช้ผู้รับเหมาช่วงด้วย

สำหรับการนำมาตรฐาน 45001 ไปใช้   ธุรกิจจำเป็นจะต้องระบุอันตรายที่เกิดจากกิจกรรมและสถานการณ์ที่ไม่ได้ทำเป็นปกติ และในข้อกำหนดเกี่ยวกับ
การจัดซื้อ (ซึ่งรวมถึงผู้รับจ้างช่วง) ก็ควรจะช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนในเรื่องนี้ในทิศทางที่ถูกต้องด้วย

นอกจากนี้ ข้อกำหนดในด้านการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงก็เป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้ตามกำหนดเวลาอย่างเหมาะสม เนื่องจากการผลิตสมัยใหม่ได้สร้าง
สิ่งใหม่ๆ และก้าวไปสู่ในเรื่องของนวัตกรรม เช่น หุ่นยนต์และนาโนเทคโนโลยี ซึ่งทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องพิจารณาถึงผลกระทบของผลิตภัณฑ์ บริการ และกระบวนการใหม่ๆ เพื่อดูแลในเรื่องความเสี่ยงด้วย

คำถาม : ทำไมการตีพิมพ์เผยแพร่มาตรฐาน ISO 45001 จึงมีความสำคัญ

ไมค์ เดนิสัน : มาตรฐาน ISO 45001 เป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกใช้เพื่อประโยชน์ด้านความปลอดภัย และเป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกเห็นพ้องต้องกันเป็นมาตรฐานแรกของโลกในการใช้สำหรับการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ปัจจุบัน เพื่อให้ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน จึงมีการยอมรับในระดับสากลสำหรับธุรกิจที่ดำเนินอยู่ในแง่ของการบริหารความเสี่ยง ซึ่งมีศักยภาพมากที่จะปรับปรุงเงื่อนไขการทำงานและช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจมีการเติบโต มีความสามารถ
ในการแข่งขัน  รวมทั้งมีความยั่งยืนมากขึ้น

สำหรับระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย  ทั่วโลกต่างเผชิญหน้ากับความท้าทายหลายประการ และแต่ละปี มีผู้ปฏิบัติงานมากกว่าสองล้านคนต้องสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุและโรคที่เกิดจากการทำงาน  มาตรฐาน ISO 45001 จึงเป็นมาตรฐานที่มีบทบาทในการลดสถิติอุบัติเหตุดังกล่าว เนื่องจากเป็นมาตรฐานที่นำเอาเรื่องของอาชีวอนามัยและความปลอดภัยไปใช้เป็นแกนหลักของกลยุทธ์ธุรกิจ  และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราคิดเกี่ยวกับสวัสดิภาพในการทำงาน

มาตรฐานใหม่ยังช่วยจุดประกายสนทนาที่โฟกัสไปยังผลกระทบของธุรกิจ ความเสี่ยงของธุรกิจ และการทำธุรกิจอย่างมีจริยธรรมและคุณธรรม  และด้วย
การเปรียบเทียบในระดับสากล มาตรฐานนี้มีแนวโน้มที่จะใช้ในธุรกิจที่มีการกระตุ้นให้ก้าวไปสู่ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมากขึ้น

คำถาม : มาตรฐานนี้มีความหมายกับธุรกิจและผู้จัดการด้าน Health Safety Climate and Environment อย่างไร

ไมค์ เดนิสัน : ที่ EEF มีการใช้แนวทางที่คล้ายคลึงกันในการจัดการด้านนี้ซึ่งข้อกำหนดมีความสอดคล้องกับหลักการของมาตรฐานไอเอสโอ เช่น ISO 9001 ISO 14001 ISO 14001

การตีพิมพ์เผยแพร่มาตรฐาน ISO 45001 ทำให้มีข้อกำหนดด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่สอดคล้องกันกับมาตรฐานหลัก เช่น ISO 9001  ISO 14001  ISO 27001 ซึ่งทั้งหมดมีการทบทวนให้เข้ากับกับแนวทางการบริหารแบบใหม่

มาตรฐานยุคใหม่มีการทำให้ง่ายขึ้นโดยมีวิธีการจัดการกับธุรกิจและความเสี่ยง มาตรฐานทั้งหมดใช้กรอบการดำเนินงาน การบริหารความเสี่ยงภายใต้ Annex SLซึ่งจัดเตรียมโครงสร้างร่วมที่อำนวยความสะดวกการรวมระบบการบริหารจัดการหลายระบบเข้าไปไว้ในกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัท
เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผล

มาตรฐานระบบการบริหารจัดการใช้วงจร P-D-C-A ที่ผู้จัดการ HSCE และธุรกิจส่วนใหญ่จะมีความคุ้นเคยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีผู้นำจาก
ผู้บริหารระดับสูง ซึ่งรวมถึงการแสดงความเป็นเจ้าของและการแสดงความมีพันธสัญญาในด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย  มาตรฐาน ISO 45001
มีการเน้นในเรื่องกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยและวิธีที่มาตรฐานเชื่อมโยงกับกลยุทธ์และบริบทด้วย

มาตรฐาน ISO 45001จะทำให้มั่นใจว่าบริษัทยอมรับและให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับผู้ปฏิบัติงานและการให้คำปรึกษากับผู้ปฏิบัติงานในการปรับปรุงเงื่อนไขการทำงานด้วยการมีส่วนร่วมที่ดีขึ้นในการปฏิบัติงาน

สำหรับคำถามที่ว่าการรับเอามาตรฐานนี้ไปใช้งานจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมอย่างไรบ้างนั้น มาติดตามคำตอบในบทความ
ตอนที่ 2 ในครั้งหน้าค่ะ

ที่มา: https://www.iso.org/news/ref2269.htm