เมืองแห่งอนาคตสร้างได้ด้วย “มาตรฐาน”

the-city-of-the-future-and-standards

เมืองอัจฉริยะเป็นสิ่งที่มีการกล่าวถึงกันมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา  และเนื่องจากพื้นที่ในเมืองคาดว่าจะมีประชากรเพิ่มมากขึ้นถึง 70% ภายในปี 2050

เกี่ยวกับเรื่องนี้ “มาตรฐาน” จะเป็นสิ่งที่ทำให้เมืองมีความเป็นอัจฉริยะมากขึ้น  (Standards make cities smarter) หัวข้อนี้เป็นหัวข้อที่ไอเอสโอหรือองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน ร่วมกับไออีซีหรือคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศว่าด้วยมาตรฐานสาขาอิเล็กทรอเทคนิกส์ และไอทียู หรือสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ กำหนดให้เป็นวาระสำคัญในการเฉลิมฉลองวันมาตรฐานโลกเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2560 ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้
MASCI Innoversity ได้นำเสนอไว้ในบทความเรื่อง “14 ตุลาคม วันมาตรฐานโลก”

สิ่งที่เมืองสมัยใหม่ต้องทำให้สำเร็จเพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขันและการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของพลเมือง ได้แก่ น้ำใช้ที่เพียงพอ การเข้าถึงน้ำ
ที่สะอาดทั่วโลก ความสามารถในการเดินทางอย่างมีประสิทธิภาพ และความรู้สึกของความมั่นคงและปลอดภัย

การสร้างเมืองอัจฉริยะ ไม่ใช่งานที่ง่ายเลย ทุกๆ เมืองมีศูนย์กลางที่ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายและต้องการการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองแบบองค์รวม มาตรฐานสากลเป็นสิ่งที่จะช่วยได้เนื่องจากประกอบด้วยความรู้ของผู้เชี่ยวชาญและวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดที่เมืองสามารถใช้ในการพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหา
ที่ออกแบบมาสำหรับแต่ละเมืองที่มีการปรับให้เข้ากับความต้องการที่เฉพาะเจาะจง

มาตรฐานสากลมีความสำคัญในการทำให้เชื่อมั่นในคุณภาพและสมรรถนะ หากปราศจากมาตรฐาน เทคโนโลยีที่แตกต่างกันจะไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ มาตรฐานเป็นการอำนวยความสะดวกให้สามารถเปรียบเทียบบริการและผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันได้ ซึ่งสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันและนวัตกรรม
เมื่อมาตรฐานมีการทำงานกับระบบร่วมกัน จะทำให้เกิดการผสมผสานของโครงสร้างและแนวทางการแก้ไขปัญหาจากซัพพลายเออร์ที่แตกต่างกัน

หากไม่มีมาตรฐานระหว่างประเทศ เมืองจะมีความยากลำบากในการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยและสร้างบริการที่สะดวกสบาย มาตรฐานจึงเป็นพื้นฐานสำหรับการเข้าถึงด้านไฟฟ้าและอุปกรณ์อีกหลายอย่างรวมทั้งระบบที่ใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มาตรฐานสากลเป็นตัวช่วยสนับสนุนให้ข้อมูลและเทคโนโลยีการสื่อสารสามารถทำการเก็บรวบรวมข้อมูล แลกเปลี่ยนและวิเคราะห์ข้อมูล และดูแลความมั่นคงปลอดภัยด้านข้อมูลได้ นอกจากนี้ ยังเป็นการเตรียมแนวทางที่สำคัญในทุกแง่มุมสำหรับชีวิตในเมือง  เช่น อาคารที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การขนส่งอัจฉริยะ การบริหารจัดการของเสียที่มีการปรับปรุง
ให้ดีขึ้น และชุมชนที่มีความยั่งยืน เป็นต้น

มาตรฐานสากลยังสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะแบบผสมผสานและทำให้มีความสะดวกสบายราบรื่นมากขึ้น ด้วยมาตรฐานสากลนี้เอง จะทำให้เราสามารถสร้างเมืองที่มีความเป็นอัจฉริยะมากยิ่งขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

วันมาตรฐานโลกจึงเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกจะได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาข้อตกลงทางเทคนิควิชาการแบบสมัครใจซึ่งมีการตีพิมพ์เผยแพร่ออกมาเป็นมาตรฐานสากล เพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วโลกได้นำไปประโยชน์ต่อไป

ที่มา:  https://www.iso.org/news/ref2231.html